โครงการบริการคลาวด์ภาครัฐ (Government Cloud Service)
|
|
โครงการบริการคลาวด์ภาครัฐ (Government Cloud Service)
• ที่มาโครงการ
ปัจจุบันหน่วยงานภาครัฐมีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้เป็น
เครื่องมือในการบริหารจัดการและให้บริการประชาชนมากขึ้น
ส่งผลให้งบประมาณในการจัดซื้อด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่าง
ต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้จากผลการสำรวจตลาด IT ประเทศไทย มีอัตราการขยายตัวปี
2554 ร้อยละ 15.60 โดยคิดเป็นมูลค่าตลาด 293,239ล้านบาท
และหากพิจารณาค่าใช้จ่ายจำแนกตามภาคผู้ใช้งานจะพบว่าภาครัฐมีการใช้จ่ายด้าน
IT คิดเป็นประมาณร้อยละ 20.4 หรือ 59,818 ล้านบาท
เมื่อพิจารณาในส่วนของบริการด้าน Data Center and Disaster Recovery Center
พบว่าภาพรวมมีมูลค่าตลาดในปี 2554 เท่ากับ 6,903 ล้านบาท
โดยภาครัฐมีการใช้จ่ายในส่วนนี้ถึง 2,567ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ
38.5 เพื่อใช้ในการสร้างศูนย์ข้อมูลคอมพิวเตอร์ (Data Center)
จัดหาครุภัณฑ์เครื่องแม่ข่ายและระบบ
หรือใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพและความ
ต่อเนื่องของการให้บริการจากหน่วยงานภาครัฐไปยังภาคประชาชน
แต่นอกจากค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้วความเชี่ยวชาญของบุคลากร
ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน
ความพร้อมในการดูแลบำรุงรักษาระบบให้พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
รวมถึงมาตรการในการลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากภัยพิบัติก็เป็นอีกปัจจัย
หลักที่ควรจะต้องมีการพิจารณาในการลงทุนเพิ่มเติม
ดังนั้น
เพื่อเป็นการลดปัญหาด้านการใช้งบประมาณซ้ำซ้อนและการเพิ่มประสิทธิภาพในการ
บริหารจัดการระบบ IT แก่ภาครัฐ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ได้มอบหมายให้ สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สรอ.
ซึ่งมีความพร้อมทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบเครือข่าย
บุคลากรในการช่วยเหลือและสนับสนุน รวมถึงการบริหารจัดการ
ทำการศึกษาและทดสอบระบบ Cloud Computing เพื่อเป็นโครงการนำร่องไปสู่
Government Cloud ของประเทศ โดยปัจจุบันคาดการณ์ว่ามูลค่าการใช้บริการ
Cloud Computing และ SaaS ในประเทศไทยจะคิดเป็นประมาณ 2,089 ล้านบาท
และมีแนวโน้มเติบโต 22.9% โดยเป็นกลุ่มผู้ใช้งานรัฐและเอกชนถึงร้อยละ 71.3
หรือ 180,821 ล้านบาท
• วัตถุประสงค์โครงการ
- เพื่อศึกษาแนวทางในการให้บริการ Cloud Computing แก่หน่วยงานภาครัฐ และพัฒนาไปสู่การให้บริการ
- เพื่อเป็นแนวทางในการให้บริการโครงสร้างพื้นฐานหลักสำหรับระบบและข้อมูลสารสนเทศของหน่วยงานภาครัฐ
-
เพื่อศึกษาการลดความซ้ำซ้อนของงบประมาณภาครัฐในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
และเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาระบบเพื่อให้บริการประชาชนแก่หน่วยงานภาครัฐ
ที่ร่วมโครงการ
- เพื่อพัฒนาประเทศไทยให้พร้อมสู่การเป็นรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ที่ทัดเทียมกับนานาประเทศ
ภาพ การใช้บริการของอุปกรณ์สื่อสารในระบบ Government Cloud Service
• ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
- ประโยชน์ต่อภาครัฐ
ระยะสั้น
การบริหารการจัดการระบบเครือข่ายและระบบในการให้บริการภาคประชาชนของหน่วย
งานรัฐมีแนวโน้มดีขึ้น
สามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่องแม้ในสภาพเกิดเหตุภัยพิบัติ
และสามารถประหยัดงบประมาณทางด้านการลงทุนระบบได้อย่างน้อย 30%
จากตัวเลขที่ในระดับโลกประเมินมาแล้ว
ระยะยาว เมื่อมีการรวมระบบงานต่างๆ ของหน่วยงานภาครัฐ เข้าสู่ Government
Cloud Service
แล้วจำเป็นที่จะต้องมีการพัฒนาการเชื่อมโยงเครือข่ายตามไปด้วย
เสริมสร้างความมั่นใจในการให้บริการ
สามารถบริการได้อย่างต่อเนื่องแม้ในสภาวะวิกฤติ
หรือเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติต่างๆ
รวมถึงการพัฒนาระบบเครือข่ายเพื่อเชื่อมเข้าสู่หน่วยงานภาครัฐเพื่อเป็น
Smart Network ในอนาคต
- ประโยชน์ต่อภาคประชาชนในการได้รับบริการจากหน่วยงานภาครัฐอย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว และทันต่อเหตุการณ์
ระยะสั้น จะเกิดบริการของภาครัฐใหม่ๆ
ให้บริการผ่านระบบออนไลน์เพื่อสร้างความสะดวกสบายมากขึ้น
โดยระบบจะมีการปรับแต่งให้มีความทันสมัยตลอดเวลา
ระบบจะมีความเสถียรและให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่อง
ระยะยาว ธุรกรรมทางด้านออนไลน์ของภาคประชาชนกับภาครัฐจะเติบโตขึ้น
สามารถเข้าไปเชื่อมโยงกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้ง่าย
ลดความยุ่งยากและซับซ้อนในการให้บริการประชาชนด้วยระบบที่ทำงานอย่างมีแบบ
แผนเป็นขั้นตอนชัดเจน
website ที่เกี่ยวข้อง
http://cloud.ega.or.th/
ที่มา http://ega.or.th/Content.aspx?c_id=191